สสว. ร่วมให้ความรู้ SMEs ไทย ในเวที Digital SME Conference Thailand 2024

จบไปเป็นที่เรียบร้อยกับงาน Digital SME Conference Thailand 2024 โดยปีนี้ได้รับเกียรติและโอกาสจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) มาร่วมเป็นผู้สนับสนุนเพื่อส่งเสริม และ ผลักดันให้ SMEs ไทย ที่จะก้าวไปได้อย่างแข็งแรง โดย สสว. มุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการรายย่อยขยายธุรกิจจากขนาดเล็กเป็นขนาดกลาง และจากกลางสู่ขนาดใหญ่ต่อไป เพราะ SMEs คือรากฐานที่แท้จริง ก่อนการระบาดของ COVID-19 ได้มีการประเมินว่า SMEs จะพร้อมต่อโลกดิจิทัลในปี 2570

วรพจน์ ประสานพานิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ให้ความรู้เกี่ยวกับกลุ่มการตลาดของ SMEs อีกทั้งยังได้แนะแนวทางการช่วยเหลือ ข้อมูล และเครื่องมือที่จะให้ผู้ประกอบการ SMEs ต่างๆ ทำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโต รวมถึงยังมีโอกาสได้รับเงินสนับสนุน และการเข้าถึงหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น

     บทบาทการผลักดันจากรัฐบาลในการผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐปัจจุบันสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการติดต่อและเข้าถึงหน่วยงานได้สะดวกขึ้น และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ต่อยอดการให้บริการให้ดียิ่งขึ้นในยุคที่ดิจิทัลเป็นบทบาทสำคัญ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มต่างๆ ขึ้นมา โดยมีการใช้งานที่แตกต่างกันอยู่หลักๆ ได้แก่ SME ONE, SME Academy 365, SME Coach, Thai SME-GP และ SME Connect

ในส่วนของตัวเลขผู้ประกอบการ SMEs ในประเทศไทยปัจจุบัน ถ้ารวมผู้ประกอบการทุกขนาดตั้งแต่ Micro ไปจนถึง Medium พบว่ามีจำนวนผู้ประกอบการมากกว่า 3,225,743 ธุรกิจ คิดเป็น GDP ในปี 2566 มากถึง 6,317,181 บาท หรือคิดเป็น GDP (มูลค่า %) ที่ SMEs สร้างได้ ถึง 35.2%

แสดงให้เห็นถึงพละกำลังของผู้ประกอบการ SMEs ในประเทศไทยที่ทางสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และ หน่วยงานภาครัฐต่างๆ มุ่งเน้นที่ให้ความสำคัญ และส่งเสริมให้เติบโตอย่างมั่นคง อีกทั้งยังสามารถออกไปสู่เวทีสากลได้อย่างภาคภูมิใจ และยังมีโครงการและมาตรการ การช่วยเหลือผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS: สัดส่วนการให้การอุดหนุนตามขนาดของธุรกิจ ที่ทาง สสว. นั้นจะเป็นการอุดหนุนค่าใช้จ่ายแบบร่วมจ่าย (Co-payment) เป็นสัดส่วนตามขนาดของธุรกิจตามนิยาม SME ดังนั้น สสว.ได้มีการปรับตัวในการทำงานเพื่อรองรับความต้องการของผู้ประกอบการที่เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีมาระยะหนึ่งแล้ว

ตั้งแต่ COVID-19 เป็นต้นมา รูปแบบการทําธุรกิจ รูปแบบสังคม หรือระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนไปเยอะมากสิ่งที่สสว. เราทําก็คือในเรื่องของการที่เราจะช่วยสนับสนุน SMEs ในเรื่องของการอํานวยความสะดวก สิ่งที่เรามองคือ หลัง COVID-19 โลกหมุนเร็วขึ้น เพราะทุกคนต้องปรับตัวมาใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทําคือยกงานบริการต่างต่างของสสว.ทั้งหมดขึ้นออนไลน์ เพื่อให้ผู้ประกอบการทุกคนสามารถเข้าถึงงานบริการของ สสว.ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง 7 วันทําการ ไม่มีวันหยุด ทุกคนสามารถเข้าได้ในทุกช่วงเวลา อันนี้คือสิ่งแรกที่สสว.ปรับตัว

     เรื่องที่ 2 คือ เราพยายามจะให้ SMEs นำเอาเทคโนโลยีไปใช้ในการทําธุรกิจมากขึ้น สสว.เข้าใจว่าการใช้เทคโนโลยีเข้ากับธุรกิจอาจจะมีต้นทุนอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ซึ่งถือเป็นการลงทุนของ SMEs ที่ควรต้องทํา สิ่งที่เราทําก็คือเรามีออกโครงการหรือมาตรการในการสนับสนุนค่าใช้จ่ายคนละครึ่ง ถ้าเกิดสมมติว่าผุ้ประกอบการร้านอาหารอยากจะได้ระบบเข้ามาใช้ในระบบร้านอาหาร เรามีโครงการช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่งเป็นมาตรการชื่อว่า SME ปัง! ตังได้คืน เป็นต้น

ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)  อธิบายเพิ่มเติมว่าในภาพใหญ่ SMEs ส่วนมากวุ่นวายกับการทําธุรกิจของตัวเองในแต่ละวันอยู่แล้ว บางทีผู้ประกอบการก็ไม่สะดวกที่จะติดต่อเข้ามาใสเวลาราชการ แต่พอสสว. เปิดข้อมูลในลักษณะของการเชื่อมโยงที่ให้SMEs สามารถที่จะติดต่อเราได้ตลอดเวลา เช่น พิมพ์เข้ามาในแชทบอท หรือในเว็บบอร์ดของเรา ซึ่งตรงนี้ทําให้สสว. สามารถเข้าถึง SMEs ได้มากขึ้นกว่าเดิมมาก

     “อย่างที่บอกว่าบางครั้ง SMEs ไม่รู้ว่าภาครัฐมีสนับสนุนและส่งเสริมอะไรบ้าง เคยมีผู้ประกอบการร้านค้าชุดผ้าไทยที่เชียงใหม่ที่ได้ข้อมูลและเข้าร่วมการสนับสนุนจากการโปรโมทโครงการ SME ปัง! ตังได้คืน ของ สสว.

     สสว. สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการที่จะไปต่อยอดธุรกิจได้ ผู้ประกอบการรายนี้ต้องการจะไปออกบูธที่งานฮ่องกง Hong Kong Fashion Week ซึ่งมีค่าใช้จ่ายหลักแสน ซึ่งจริงๆ ผู้ประกอบการเองก็สามารถจ่ายได้ แต่อยากจะเก็บเงินทุนไว้เพื่อที่เราจะต่อยอดธุรกิจ การเข้าร่วมโครงการนี้ ทำให้สามารถไปออกงานได้ทัน และประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากมายคุณวรพจน์ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการ SMEs ท่านไหนสนใจที่อยากจะสมัคร หรือ การขอเงินทุนในการต่อยอดธุรกิจก็ยังที่จะเข้าไปสมัครหรือเรียนรู้ได้ที่ bizportal.go.th

RELATED ARTICLE

Scroll to Top