BAFS ประกาศผลการดำเนินงาน BAFS Group มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ของปี 2568 จำนวน 143 ล้านบาท มีรายได้รวม 967 ล้านบาท เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องด้วยยุ ทธศาสตร์สร้างความสมดุ ลของโครงสร้างรายได้และความยั่ งยืน ด้วยแรงหนุนจากทุกกลุ่มธุรกิจ สอดรับการฟื้นตัวของการท่องเที่ ยว ท่ามกลางความท้าทายของปัจจั ยแวดล้อม

ม.ล. ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยถึงผลการดำเนิ นงานในไตรมาส 1/2568 ว่า ภายหลังจากสถานการณ์ การระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง ในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา ภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มฟื้ นตัวดีขึ้นตามลำดับ แม้ว่ายังเผชิญแรงกดดันท่ ามกลางความท้าทายของปัจจั ยทางเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ส่งผลให้ BAFS Group ยังคงเติบโตและมีกำไรอย่างต่ อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยมีกำไรสุทธิ 143.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73% และมีอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 14% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกั นของปีก่อน ด้วยรายได้รวม 967 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี ก่อน ขณะที่ EBITDA เติบโตมาอยู่ที่ 521.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกั บงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับภาพรวมค่าใช้จ่ ายของการดำเนินงาน (ไม่รวมค่าเสื่อมราคาและค่าตั ดจำหน่าย) เพิ่มขึ้น 8% จากค่าผลประโยชน์ ตอบแทนจากการดำเนินกิจการให้บริ การเติมน้ำมันเชื้อเพลิ งอากาศยาน และค่าซ่อมแซมบำรุงรักษาระบบท่ อส่งน้ำมันอากาศยาน
ขณะที่ต้นทุนทางการเงินสุทธิ ลดลง 6% จากการทยอยจ่ายชำระคืนเงินกู้ แก่สถาบันการเงินและจากการปรั บลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิ ชย์ สะท้อนการควบคุมต้นทุนอย่างมี ประสิทธิภาพและการบริหารคุ ณภาพสินทรัพย์ที่รอบคอบ พร้ อมดำเนินธุรกิจด้วยความระมั ดระวัง มุ่งเน้นการเติบโตที่มีคุ ณภาพและเสริมความแข็งแกร่ งของสถานะทางการเงิน ทั้งนี้ การเติบโตของรายได้ที่เพิ่มขึ้ นของ BAFS Group มีปัจจัยสนับสนุนหลักดังนี้
กลุ่มธุรกิจ Aviation ยังคงฟื้นตัวอย่างต่ อเนื่องในไตรมาสแรก มีรายได้อยู่ที่ 786.3 ล้านบาท โดยมีปริมาณการเติมน้ำมั นอากาศยานอยู่ที่ 1,422 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกั นของปีก่อน คิดเป็น 88% ของระดับก่อนการแพร่ ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นไปตามการเพิ่มขึ้ นของปริมาณเติมน้ำมั นอากาศยานรวมของทุกทวีปปลายทาง โดยเฉพาะประเทศจีนที่ยังคงมีปริ มาณเติมน้ำมันสูงสุด และตลาดเอเชียใต้ที่ฟื้นตัวอย่ างแข็งแกร่ง ส่งผลให้ในปีนี้ คาดการณ์ปริมาณเติมน้ำมั นอากาศยานทั้งปีอยู่ที่ 5,400 ล้านลิตร สะท้อนถึงทิศทางเชิงบวกของอุ ตสาหกรรมการบินที่กลับมาเติ บโตอย่างมั่นคง
กลุ่มธุรกิจ Utilities เติบโตอย่างก้ าวกระโดดในไตรมาสแรกของปี 2568 โดยมีปริมาณขนส่งน้ำมันรวมของ บริษัท บาฟส์ขนส่งทางท่อ จำกัด อยู่ที่ 363 ล้านลิตร เติบโตขึ้นถึง 24% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่ งการตลาดเป็น 37% ภายในปี 2568 ด้วยปริมาณขนส่งน้ำมัน 1,290 ล้านลิตร นอกจากนี้ บริษัท บาฟส์ขนส่งทางท่อ จำกัด ยังได้เริ่มดำเนินการก่อสร้ างโครงข่ายท่อขนส่งน้ำมั นสายเหนือ ระยะที่ 3 (อ่างทอง-สระบุรี) โดยปัจจุบันมีความคืบหน้ าของโครงการราว 14% คาดการณ์ภายหลังจากการเปิดให้ บริการเชิงพาณิชย์ จะส่งผลให้มีส่วนแบ่ งการตลาดในพื้นที่ภาคเหนือสูงถึ ง 70% ภายในปี 2570
“ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 สภาวะเศรษฐกิจของไทยยังคงมีความผันผวน แม้ภาพรวมการท่องเที่ ยวของประเทศจะอยู่ในช่วงฟื้นตัว แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้ องติดตาม โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิ จโลก ภาวะผลกระทบจากมาตรการกำแพงภาษี นำเข้าของสหรัฐฯ รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ มีทิศทางปรับลดลงและความผั นผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเดิ นทางระหว่างประเทศและจำนวนนักท่ องเที่ยว อย่างไรก็ตาม BAFS และกลุ่มบริษัท (BAFS Group) มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้ วยแนวคิดเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมพร้อมเชิงรุกเพื่อรับมื อและเผชิญกับความท้ าทายจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิ จ ตามยุทธศาสตร์สร้างสมดุลรายได้ จากทุกกลุ่มธุรกิจ ”