เอสซีจี จับมือ ดีเอ็กซ์ซี เทคโนโลยี ชูออโตเมชั่น เสริมแกร่งระบบคลาวด์ให้รวดเร็วและปลอดภัย 

      ดีเอ็กซ์ซี เทคโนโลยี  และ เอสซีจี ประกาศความร่วมมือด้านเทคโนโลยี เร่งเครื่องเอสซีจีสู่องค์กรดิจิทัลสอดรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยียุคใหม่ ด้วยนวัตกรรมและโซลูชันยกระดับระบบโครงสร้างไอทีพื้นฐาน (IT Infrastructure) ชูการใช้ออโตเมชั่น(Automation) บนระบบคลาวด์ (Cloud) เพื่อการทำงานที่สะดวก รวดเร็ว ข้อมูลมีความปลอดภัยสูง อีกทั้งมีความคล่องตัวด้วยระบบที่สามารถยืดหยุ่นตามความต้องการใช้งานในอนาคต (IT Outsourcing) เช่น การขยายพื้นที่รองรับข้อมูล มุ่งมอบประสบการณ์ไร้รอยต่อแก่ลูกค้า นำเสนอนวัตกรรมตรงใจ ทั้งลดการใช้พลังงาน ตอบเป้า Net Zero 2050 ตามแนวทาง ESG(Environmental, Social, and Governance) ตลอดระยะเวลา 5 ปี

       อภิชาต อรุณคุณารักษ์ กรรมการผู้จัดการและผู้จัดการทั่วไปประจําประเทศไทยของ ดีเอ็กซ์ซี เทคโนโลยี กล่าว “เราได้มีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับเอสซีจี เพื่อทำความเข้าใจถึงความต้องการขององค์กร รวมไปถึงความต้องการของลูกค้า เพื่อให้เราสามารถนำองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญที่มีมาออกแบบแผนเชิงกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยี ที่จะสามารถส่งเสริมการปฏิบัติงานของเอสซีจีได้ทั่วทั้งองค์กร และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งการนำระบบอัตโนมัติที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมีความสำคัญอย่างมากในการทำให้ทั้งสามกลุ่มธุรกิจหลักสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพในการทำงานที่เพิ่มขึ้น และสามารถสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อีกด้วย”

      ความร่วมมือในครั้งนี้ ดีเอ็กซ์ซีได้ทำการพัฒนานวัตกรรมออโตเมชั่นในการจัดเก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์ให้สามารถทำงานได้อย่างสะดวก แม่นยำและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยด้านสารสนเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่กระทบต่อความรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูล ซึ่งรองรับการใช้งานจริงจากทั้งสามกลุ่มธุรกิจหลักของเอสซีจี ได้แก่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ธุรกิจเคมิคอลส์ (SCGC) และธุรกิจแพคเกจจิ้ง (SCGP)

     ยุทธนา เจียมตระการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ – การบริหารกลาง เอสซีจี กล่าวว่า “เอสซีจี ร่วมมือกับดีเอ็กซ์ซีเพื่อยกระดับโครงสร้างไอทีพื้นฐาน (IT Infrastructure) และกระบวนการทำงาน ด้วยระบบควบคุมอัตโนมัติ หรือ ออโตเมชั่น (Automation) ถือเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันใหม่ ๆ ได้อย่างคล่องตัวฉับไว มีความยืดหยุ่นพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องราบรื่น ภายใต้ความปลอดภัยขั้นสูง ซึ่งตอบโจทย์การดูแลลูกค้าในยุคที่ความรวดเร็วและปลอดภัยของข้อมูลมีความสำคัญอย่างมาก ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีทั้งหมดที่กล่าวถึงเป็นเทคโนโลยีที่ทำงานบนระบบคลาวด์ (Cloud) จึงช่วยลดการใช้ไฟฟ้า ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ สอดคล้องกับเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2593 หรือ Net Zero 2050 ของเอสซีจี ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าความร่วมมือครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จด้วยดีอย่างเช่นที่เป็นมา”

 

RELATED ARTICLE

Scroll to Top