เจาะลึกนวัตกรรม Agentic AI จาก Salesforce เทคโนโลยีที่จะมาเสริมแกร่งธุรกิจไทย

     เทคโนโลยี Autonomous AI Agent กำลังจะเปลี่ยนโฉมการทำงานขององค์กรไทย เมื่อSalesforce ผู้นำด้านระบบ CRM ระดับโลก นำเสนอ Agentforce แพลตฟอร์ม AI รุ่นล่าสุดในงาน Agentforce World Tour Bangkok พร้อมอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ของ Data Cloud และCustomer 360 ที่รองรับการทำงานร่วมกับ AI Agent โดยตรง ตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการยกระดับระบบอัตโนมัติและการประมวลผลข้อมูลด้วย AI

     งานครั้งนี้มีลูกค้าและพาร์ทเนอร์ของ Salesforce ลงทะเบียนเข้าร่วมงานมากกว่า 500ราย พร้อมด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายทั้งการบรรยายนำเสนอแนวคิดต่าง ๆ ที่น่าสนใจ และโซนจัดแสดงนวัตกรรมล่าสุดของ Salesforce หรือที่เรียกว่า Campground ซึ่งมีการสาธิตการใช้งานผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ พร้อมทั้งกิจกรรมเวิร์กช็อปที่เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้ทดลองสร้าง AI Agent ด้วยตนเอง และการให้ความรู้เฉพาะทางสำหรับแต่ละอุตสาหกรรม เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาและประสบสำเร็จในยุคของ Agentic AI

ก้าวสู่พรมแดนใหม่ในการพัฒนาองค์กรด้วย Agentforce

      ปัจจุบันการเติบโตของเทคโนโลยีพนักงานในรูปแบบดิจิทัล (Digital Labor) ได้ทำให้Agentforce กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่เปิดโอกาสให้องค์กรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ขับเคลื่อนนวัตกรรม และสร้างการเติบโตในรูปแบบใหม่ ๆ ผ่านการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI Agent ที่มีความน่าเชื่อถือและสามารถทำงานได้ด้วยตนเอง ด้วยการผสานรวมของAgentforce เข้ากับแอปพลิเคชัน Customer 360 และ Data Cloud ของ Salesforce ซึ่งทำให้องค์กรสามารถสร้างทีมงานที่มีศักยภาพแบบไร้ขีดจำกัด และได้กำหนดนิยามใหม่ให้กับทุกบทบาทในการทำงานและกระบวนการดำเนินงานขององค์กร

     ธิติรัตน์ ทองถาวร ผู้จัดการประจำ Salesforce ประเทศไทย กล่าวว่าองค์กรในประเทศไทยสามารถยกระดับการเปลี่ยนแปลงองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการพัฒนาและใช้งาน AI Agent ที่สามารถวิเคราะห์ ตัดสินใจ ลงมือทำงาน และสร้างผลลัพธ์ที่มีความสำคัญให้กับองค์กรและเสริมว่า “Agentforce เป็นแพลตฟอร์มพนักงานดิจิทัลแบบครบวงจร ที่ช่วยให้ลูกค้าและพาร์ทเนอร์ของเราสามารถใช้เทคโนโลยี Agentic AI เพื่อเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมที่สำคัญต่าง ๆ ของประเทศไทย เช่น การค้าปลีก การผลิต และการบริการทางการเงิน

ผู้นำนวัตกรรมการเปลี่ยนแปลงองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลในประเทศไทย

     การที่ภาครัฐได้มุ่งส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางทางเทคโนโลยีในระดับภูมิภาคนั้น ได้ส่งผลให้องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนต่างเร่งนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อปรับปรุงองค์กรอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจดิจิทัลจะช่วยผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของประเทศไทยเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 11% ภายในปี 2570

      ภายใต้การพัฒนาที่กำลังเกิดขึ้นเหล่านี้ Salesforce ได้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่น่าเชื่อถือให้กับองค์กรชั้นนำซึ่งเป็นผู้นำในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย พร้อมช่วยองค์กรผสานรวมข้อมูลจากระบบ CRM และทุกช่องทางที่ติดต่อสัมพันธ์กับลูกค้าเข้าด้วยกัน เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่สะดวก ราบรื่น และมีความโดดเด่นแตกต่างให้กับองค์กร

     ลูกค้าในประเทศไทย เช่น บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) (Dohome) ผู้นำธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งวัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน และ บริษัท แปซิฟิค ครอส ประกันสุขภาพ จำกัด (มหาชน) (Pacific Cross Health Insurance) บริษัทประกันสุขภาพชั้นนำของไทย ได้ร่วมแบ่งปันมุมมองและแนวทางในการปรับเปลี่ยนองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลผ่านโซลูชันของ Salesforce ภายในงานนี้

     Dohome ได้ยกระดับการให้บริการให้มีความเฉพาะบุคคลและตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าแต่ละรายได้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจด้วยโซลูชันของ Salesforce โดย Sales Cloud ช่วยให้ทีมขายของ Dohome มีมุมมองข้อมูลลูกค้าที่ครบถ้วนรอบด้าน ซึ่งช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและสนับสนุนให้บริษัทปิดการขายได้รวดเร็วขึ้นด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์

    นอกจากนี้ Service Cloud ยังช่วยให้เจ้าหน้าที่บริการลูกค้าสามารถแก้ไขปัญหาและตอบสนองต่อคำร้องขอรับบริการได้เร็วยิ่งขึ้น ส่งผลให้ระดับความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ Marketing Cloud ได้ช่วยปรับปรุงขั้นตอนสำคัญในกระบวนการด้านการตลาด เช่น การดูแลลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้า (Lead Nurturing) ทำให้บริษัทสามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง มีประสิทธิภาพและยาวนานมากยิ่งขึ้น

     มารวย ตั้งมิตรประชา รองกรรมการผู้จัดการสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ และการตลาดออนไลน์ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในฐานะธุรกิจที่ให้บริการทั้งกลุ่มลูกค้าองค์กรธุรกิจในประเทศไทย และกับผู้บริโภคโดยตรง เราจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมมากที่สุดให้กับลูกค้าและเสริมว่า “Salesforce เป็นพันธมิตรที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เราสามารถตอบสนองความต้องการให้กับฐานลูกค้าของเรา ที่มีขนาดใหญ่และมีความต้องการที่หลากหลาย พร้อมทั้งสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เชื่อมโยงถึงกันได้ในทุกช่องทางการเลือกซื้อสินค้าและการสื่อสาร

      ขณะที่ Pacific Cross Health Insurance ได้นำระบบ Financial Services Cloud ของSalesforce มาใช้เพื่อปรับปรุงกระบวนการพิจารณาและออกกรมธรรม์ประกันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมเสริมศักยภาพให้ทีมพนักงานขายทำงานกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายซึ่งมีแนวโน้มซื้อประกันได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตทางรายได้ให้กับองค์กร โดยในระยะถัดไปของกระบวนการเปลี่ยนแปลงองค์กรด้วยระบบดิจิทัล บริษัทฯ มีแผนที่จะนำโซลูชันเทคโนโลยี AI ของ Salesforce มาใช้งาน เพื่อยกระดับการให้บริการลูกค้า การบริหารกรมธรรม์ และระบบจัดการเคลมประกันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป

      ยสวันต์รังษิกร ศักยดิ์สิงหนาท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แปซิฟิค ครอส ประกันสุขภาพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจของเรา สอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการมอบความพึงพอใจสูงสุดและยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น” พร้อมเสริมว่า “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ Salesforce เพื่อการขยายธุรกิจของเราอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านระบบแบบอัตโนมัติในการพิจารณาและออกกรมธรรม์ การขาย และการสมัครประกัน นอกจากนี้แล้วเรายังยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะขยายความร่วมมือเพื่อยกระดับการดำเนินงานด้านอื่น ๆ ในธุรกิจของเราต่อไปในอนาคต

 

RELATED ARTICLE

Scroll to Top