เทคโนโลยี Industry 4.0 และ IIoT (Industrial Internet of Things) เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคการผลิต เพราะช่วยเปลี่ยนระบบโรงงานแบบธรรมดาให้เป็นโรงงานอัตโนมัติ หรือสมาร์ทแฟคทอรี่ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจในประเทศรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ทั้งยังให้ความยืดหยุ่น แก่กระบวนการผลิต และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยคาร์บอน ขณะเดียวกันก็นำไปสู่เส้นทางความยั่งยืนอีกด้วย
โดยเทคโนโลยีไฮไลท์ที่สำคัญเพื่อเปลี่ยนโรงงานให้มีความอัจฉริยะมากขึ้น ได้แก่
ProLeiT โดดเด่นด้วยโซลูชันระบบควบคุมในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มโดยเฉพาะ ให้รูปแบบการกำหนดพารามิเตอร์แทนการเขียนโปรแกรม สามารถตอบโจทย์อุตสาหกรรมต่างๆ ได้เช่น อุตสาหกรรมเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมการผลิตเบียร์ อุตสาหกรรมนม อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมเบเกอรี่ อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต โซลูชั่นจาก ProLeiT ที่นำมาจัดแสดงในงานได้แก่
· Plant iT โซลูชั่นระบบควบคุมกระบวนการแบบเชิงวัตถุและใช้ PLC พร้อมฟังก์ชัน MES ในตัว เนื่องจากเป็นชุดซอฟต์แวร์แบบรวมและโมดูลาร์ ประกอบด้วยระบบพื้นฐาน โมดูล และส่วนเสริม ที่สามารถรวมกันได้อย่างยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการทางการผลิต
· Brewmaxx – โซลูชั่นอุตสาหกรรมสำหรับโรงเบียร์ มาพร้อมระบบควบคุมกระบวนการรวมถึงการจัดการสูตร ตั้งแต่การเก็บข้อมูลการผลิต เทคโนโลยีการควบคุมกระบวนการ และการจัดการของเหลวที่ควบคุมตามสูตร ไปจนถึงฟังก์ชั่นสำหรับการจัดการการผลิตเต็มรูปแบบ และยังสามารถใช้งานร่วมกับ ERP, LIMS และระบบการบำรุงรักษา ระบบจะเชื่อมโยงกระบวนการต่างๆ ช่วยในการจัดการโรงเบียร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดต้นทุน
Unified Operation Center จาก AVEVA หรือศูนย์การดำเนินงานแบบบูรณาการ ช่วยให้สามารถเห็นมุมมองในภาพรวมของการใช้พลังงานและทรัพยากรได้ทุกที่หรือทุกไซต์งาน ทำให้สามารถกำหนดมาตรฐานของอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์ รวมถึงการใช้งานได้อย่างเหมาะสมเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินงานในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น น้ำมันและก๊าซ โครงสร้างพื้นฐานและเมืองอัจฉริยะ ศูนย์ข้อมูล การเดินเรือ พลังงาน และเหมืองแร่ ได้ในแบบเรียลไทม์ และมอบข้อมูลทำงานเพื่อให้บริการตามเป้าหมายขององค์กรและเป็นแนวทางการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ของคุณแบบ end to end
Lexium Cobot สามารถทำงานร่วมกับ EcoStruxure Machine Expert Twin เพื่อลดเวลาในการออกแบบ การพัฒนา และการทดสอบการใช้งาน บูรณาการเข้ากับเครื่องจักรและระบบการผลิตที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดาย โดยพนักงานสามารถ ‘สอน’ หุ่นยนต์ได้อย่างรวดเร็ว ว่าจะเคลื่อนตัวไปที่ใด หยิบอะไร รวมถึงการทำงานต่าง ฯลฯ โดยไม่ต้องตั้งโปรแกรมมากมาย นอกจากนี้โคบอทยังสามารถทำงาน ซ้ำๆ งานหนัก และอันตรายได้ ดังนั้นจึงช่วยลดโอกาสที่พนักงานจะได้รับบาดเจ็บจากการยกของหนักและอันตรายอีกด้วย
EcoStruxure Automation Expert เป็นแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงซอฟต์แวร์ระบบอัตโนมัติในโรงงาน สำหรับกระบวนการดำเนินงาน และเครื่องจักร ช่วยยกระดับความสามารถในการผลิต รวมถึงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และความคล่องตัว ด้วยการเชื่อมต่อซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ของระบบอัตโนมัติ ด้านอุตสาหกรรมเพื่อให้ทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ
นอกจากนี้เพื่อประสิทธิภาพของระบบอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ และให้ความรวดเร็วไม่ติดขัด ชไนเดอร์ อิเล็ทริค ยังมีเทคโนโลยี ด้วย EcoStruxure Micro Data Center R-Series มาพร้อมมาตรฐาน IP และ NEMA สำหรับสภาพแวดล้อมแบบเอดจ์ (Edge) ในโรงงาน ครบครันด้วยระบบปรับอากาศในตัว ตอบโจทย์ความต้องการในอุตสาหกรรม 4.0 ด้วยการทำให้ระบบไอทีในโรงงานมีความเสถียรมากขึ้น ถูกออกแบบเพื่อการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ ช่วยรวมระบบ IT และ OT เข้าด้วยกัน ให้ความปลอดภัย เพื่อสร้างศักยภาพการใช้งาน IIoT และอุตสาหกรรมอัตโนมัติ สู่สมาร์ทแฟคทอรี่ อย่างเต็มรูปแบบ
เทคโนโลยีเหล่านี้ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำมาจัดแสดงในงาน ProPak Asia 2024 ที่จัดขึ้น ณ ฮอลล์ 98 บูธC66 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดยมุ่งหวังเสริมทัพด้านโซลูชั่นสำหรับอุตสาหกรรมไทยให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและสร้างความยั่งยืน เพื่อการเติบโตทางการค้าด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลระดับโลก เมื่อเร็วๆ นี้