บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป จับมือ บีไอจี ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อความร่วมมือในการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากก๊าซไฮโดรเจนสำหรับการผลิตไฟฟ้า ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยคาร์บอน เล็งนำผลการศึกษาไปใช้ในโรงไฟฟ้าในกลุ่มเอ็กโก มุ่งเป้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ พร้อมสร้างโอกาสต่อยอดธุรกิจพลังงานสะอาดร่วมกันในอนาคต
เทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า เอ็กโก กรุ๊ป มุ่งมั่นขับเคลื่อน สู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน ตามเป้าหมายระยะสั้น คือ ลดการปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้ (Carbon Emissions Intensity) ลง 10% ภายในปี 2030 (2573) และเป้าหมายระยะยาว คือ การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 (2593) โดยเฉพาะการส่งเสริมแผนการใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า โดยมีความเชื่อมั่นว่าเชื้อเพลิงไฮโดรเจนจะเป็นพลังงานทางเลือกที่สำคัญและมีศักยภาพรองรับการเปลี่ยนผ่านจากพลังงานฟอสซิลไปสู่พลังงานสีเขียว รวมถึงมุ่งมั่นผลักดันการใช้เชื้อเพลิงต่าง ๆ ที่สะอาดขึ้น และพัฒนาเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
“ความร่วมมือนี้ช่วยผลักดันเป้าหมายการมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำของทั้งสององค์กรและของประเทศไทยให้เป็นรูปธรรม ตลอดจนช่วยต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานสะอาดระหว่างองค์กรในอนาคต ทั้งนี้ เอ็กโก กรุ๊ป จะนำผลการศึกษาจากความร่วมมือครั้งนี้ไปประยุกต์ใช้ในโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์เชื้อเพลิงจากไฮโดรเจน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีพลังงานสะอาดในกลุ่มเอ็กโก เพื่อส่งเสริมให้เกิดการผลิตไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงทางเลือกและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์”
ปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บีไอจี เปิดเผยว่า บีไอจี เป็นบริษัทในเครือ Air Products จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนในประเทศไทย เป็นผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนเป็นผู้ผลิตก๊าซไฮโดรเจนรายใหญ่ที่สุดของไทย เราเชื่อมั่นว่าการจะแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศได้ ก๊าซไฮโดรเจนจะเข้ามามีส่วนสำคัญ บีไอจีเป็นผู้ผลักดันและให้ความสำคัญกับการผลิตและใช้ไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำ
Air Products บริษัทแม่ของบีไอจี เป็นผู้นำนวัตกรรมการใช้ไฮโดรเจนเพื่อความยั่งยืนและการผลิตไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำอันดับหนึ่งของโลก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ไฮโดรเจนเพื่อประโยชน์ในการกักเก็บพลังงาน การใช้เป็นแหล่งพลังงานสะอาดสำหรับในภาคอุตสาหกรรม และการใช้ไฮโดรเจนในการขับเคลื่อนยานยนต์ เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการผสานความเชี่ยวชาญของทั้งสององค์กร เพื่อพัฒนาธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมไฟฟ้าไปสู่เป้าหมายสังคมคาร์บอนต่ำได้อย่างยั่งยืน