ไฮเนเก้น ร่วมรีเฟรชแนวคิดพนักงานออฟฟิศชาวไทยให้ไม่ลืมที่จะปรับจูนWork-Life Balance ดันแคมเปญ “Afterwork by Heineken” ชูคอนเซ็ปต์“Clock-out! It’s Afterwork Time” กระตุ้นให้ทุกคนเห็นความสำคัญของช่วงเวลาหลังเลิกงาน พร้อมด้วย Quality Socialising ที่ทำให้เวลาหลังเลิกงานของทุกคนกลายเป็นโมเมนต์ที่มีคุณภาพที่ทุกคนจะได้ทำในสิ่งที่ชอบและอยู่กับคนที่รัก ไม่ว่าจะเป็นการพบปะสังสรรค์หรือทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน โดยมีการร่วมมือกับบริษัทคนรุ่นใหม่ในไทยกว่า 20 แห่ง รวมถึงการจัดกิจกรรมพิเศษในช่วงเวลาเลิกงานกับร้านอาหารและเอาท์เล็ทรวมกว่า 100 แห่ง ให้คนไทยได้ปลดปล่อยความเครียดจากการทำงานและรีเฟรชความสดชื่นกันได้ตลอดทั้งปี
เทรนด์ Work-Life Balance ในประเทศไทยถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องในกลุ่มคนวัยทำงาน โดยทุกคนให้ความสำคัญในการแบ่งขอบเขตที่ชัดเจนของช่วงเวลาของการทำงานและช่วงเวลาที่จะได้ใช้ชีวิตส่วนตัว แต่ในความเป็นจริงพนักงานออฟฟิศบางส่วนมีสไตล์การทำงานแบบ Always-On Work Culture หรือการทำงานตลอดเวลา จนทำให้บางครั้งมีเวลาในการพักผ่อนหลังเลิกงานที่ไม่เพียงพอ จนส่งผลกระทบในแง่ลบทั้งต่อตัวเองและคนรอบข้าง
การสนับสนุนให้ทุกคน Switch Off จากการทำงาน และ Switch On ช่วงเวลาที่จะได้ใช้ชีวิตหลังเลิกงาน เพื่อสร้าง Afterwork Moment หรือโมเมนต์ดีๆ กับคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นการเชียร์ฟุตบอลทีมโปรดกับแก๊งค์เพื่อน ดินเนอร์ในร้านอาหารกับคนที่รัก สังสรรค์กับเพื่อนร่วมงานในคืนวันศุกร์ จัดโฮมปาร์ตี้ผ่อนคลายกับครอบครัว และโมเมนต์อีกมากมายที่มาจากการมี Work-Life Balance
แคมเปญ “Afterwork by Heineken” มีความมุ่งมั่นที่จะส่งต่อแนวคิดของการสร้างโมเมนต์ดีๆ หลังเลิกงาน โดยร่วมมือกับบริษัทคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดและวัฒนธรรมองค์กรที่ตรงกันในเรื่องของการส่งเสริมให้พนักงานมีสมดุลที่ดีระหว่างช่วงเวลางานและชีวิตส่วนตัว รวมกว่า 20 บริษัท อาทิ What The Duck / Warner Music Thailand / Major Cineplex Group / TheStandard / ConNEXT by Techsauce / Asia City Media Group (BK Magazine) / Mission To The Moon ฯลฯ ให้พนักงานได้สนุกกับ Afterwork Moment โมเมนต์ดีๆ หลังเลิกงานกันอย่างเต็มที่
ทุกคนยังสามารถสัมผัสกับ Afterwork Moment ได้ที่ร้านอาหารและเอาท์เล็ทรวมกว่า 100 แห่ง ทั่วประเทศ พร้อมพบกับคอนเสิร์ตและกิจกรรมพิเศษอีกมากมายเอาใจชาวออฟฟิศที่รักในเสียงดนตรี และความสนุกสนาน