เมื่อคนที่เจอเหตุการณ์ความรุ นแรง โดยเฉพาะเรื่องที่คาดไม่ถึ งและอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิ ต จะทำให้เกิดความกลัว กังวล รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิต ซึ่งแต่ละคนมีการตอบสนองต่ อการเผชิญเหตุการณ์ความรุนแรงที่ แตกต่างกัน จนทำให้มีความรู้สึกกังวล เศร้า โกรธ นอนไม่หลับ เสียสมาธิ คิดวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนส่วนใหญ่จะมีอาการค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อเหตุการณ์ผ่ านไประยะหนึ่ง แต่บางคนยังคงมีอาการเหล่านี้ อย่างต่อเนื่อง อาจเกิดเป็นโรคทางจิตเวชที่เรี ยกว่า โรคเครียดหลังเผชิญเหตุการณ์รุ นแรง posttraumatic stress disorder (PTSD), หรือ โรคเครียดฉับพลัน Acute stress disorder (ASD)
อาการที่ควรมาพบแพทย์ ได้แก่ กังวล เศร้า หรือกลัวมาก , ร้องไห้บ่อย, โกรธ หงุดหงิด ไม่พอใจมาก, สมาธิความจำไม่ดี, ฝันร้าย นอนไม่หลับ, คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ กลัวว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นอีก, หลีกเลี่ยงสถานที่ ผู้คน หรือสิ่งที่ทำให้นึกถึงเหตุ การณ์นั้น, แยกตัวจากสังคม, มีอาการทางร่างกาย เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้อง เหงื่อแตก ใจสั่นและตื่นตกใจง่าย
7 วิธีรับมือความเครียดจากเหตุ การณ์รุนแรง กระทบจิตใจ
- เมื่อเริ่มรู้สึกว่ามีความเครี
ยด มีอารมณ์ร่วมกับข่าวมากไป ให้ดึงตัวเองออกจากการรับรู้ข่ าวสาร งดการเข้าไปมีส่วนร่วมกับข่าว ทั้งการแชร์ การคอมเมนท์ที่รุนแรงเกรี้ ยวกราว เนื่องจากเป็นการส่งต่อความรุ นแรง - ใช้เวลาอยู่กับคนที่คุณอยู่ด้
วยแล้วสบายใจ ไว้ใจ พูดคุย ระบายความรู้สึก อย่าแยกตัวไปอยู่คนเดียว - สงบจิตใจตัวเองด้วยการทำกิ
จกรรมผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิกำหนดลมหายใจ เข้าสังคม พบปะเพื่อนฝูง ออกกำลังกาย - ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ ดูแลตัวเอง นอนพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ไม่ควรใช้สุรายาเสพติด
- ถ้ามีความรู้สึกอยากร่วมช่
วยเหลือในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สามารถมีส่วนร่วมได้ในรูปแบบต่ าง ๆ เช่น บริจาคเงิน - ถ้ามีคนรู้จักมีความเครี
ยดมากในเรื่องนี้ คุณสามารถช่วยเขาได้โดยการเป็ นผู้ฟังที่ดี ฟังอย่างไม่ตัดสินความคิดความรู้ สึกของเขา ช่วยเหลือเขาเท่าที่คุ ณสามารถทำได้ - สังเกตอารมณ์ความรู้สึกตัวเอง หากเครียดมากไป ไม่สามารถรับมือได้ ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุ
ขภาพจิต เช่น จิตแพทย์ นักจิตวิทยา
ทั้งนี้ การจัดการความเครียดจากเหตุ การณ์รุนแรงเป็นกระบวนการที่ต้ องใช้เวลาและอาศัยความอดทน ผู้ที่พบเจอเหตุการณ์ความรุ นแรงควรใจเย็นและค่อย ๆ เรียนรู้ที่จะจัดการกับความเครี ยดอย่างเหมาะสม แต่ถ้าไม่สามารถจัดการความเครี ยดได้ แนะนำให้มาปรึกษาจิตแพทย์เพื่ อเข้ารับการรักษาจะได้กลับมาใช้ ชีวิตได้อย่างมีความสุข
บทความโดย : แพทย์หญิงณัฏฐพัชร์ ลำเลียงพล จิตแพทย์ Bangkok Mental Health Hospital