หลายคนอาจเคยรู้สึกปวดท้ องแบบเฉียบพลันจนแทบจะทนไม่ไหว แล้วเข้าใจว่าอาจเป็นเพี ยงอาหารเป็นพิษหรือท้องอืดชั่ วคราว แต่รู้หรือไม่ว่าอาการแบบนี้ อาจเป็น “สัญญาณเตือนของภาวะลำไส้บิดขั้ ว (Volvulus)” ซึ่งเป็นภาวะอันตรายที่อาจคุ กคามถึงชีวิตได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทัน ท่ วงที

พันโทหญิงแพทย์หญิงจรรยวรรธน์ สร้างสมวงษ์ ศัลยแพทย์ชำนาญการด้านลำไส้ใหญ่ และทวารหนัก โรงพยาบาลเวชธานี อินเตอร์เนชั่นแนล อธิบายว่า “ภาวะลำไส้บิดขั้ว” คือภาวะที่ลำไส้บิดตั วรอบแกนของตัวเอง หรือรอบหลอดเลือดที่มาเลี้ ยงลำไส้ ส่งผลให้ลำไส้เกิดการอุดตัน และหากรุนแรงอาจทำให้เลือดไปเลี้ ยงไม่เพียงพอจนเกิด “ภาวะลำไส้ขาดเลือด” ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรี บเข้ารับการรักษาโดยด่วน
สาเหตุของการเกิดภาวะลำไส้บิดขั้ ว เกิดได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยมีสาเหตุแตกต่างกัน
ในเด็ก (โดยเฉพาะทารกแรกเกิด)
- มักเกิดจากภาวะที่ลำไส้ไม่ได้
หมุนตัวตามปกติในขณะอยู่ในครรภ์ ทำให้การจัดเรียงลำไส้ผิดปกติ - อาจเกิดร่วมกับความผิดปกติแต่
กำเนิดบางชนิด
ในผู้ใหญ่
- พบมากในผู้สูงอายุ
- สาเหตุที่พบบ่อย เช่น ลำไส้ส่วนปลายยาวกว่าปกติ (โดยเฉพาะบริเวณซิกมอยด์โคลอน), พังผืดหลังการผ่าตัดช่องท้อง, การตั้งครรภ์ หรือภาวะที่ช่องท้องเปลี่
ยนตำแหน่งจนลำไส้เคลื่อนไหวผิ ดปกติ
ภาวะลำไส้บิดขั้วมั กแสดงอาการอย่างเฉียบพลัน และอาการสามารถทรุดลงได้อย่ างรวดเร็ว โดยอาการที่ควรรีบพบแพทย์ทันที ได้แก่ ปวดท้องรุนแรงเฉียบพลัน ท้องอืดมาก คลื่นไส้ หรืออาเจียน ไม่สามารถถ่ายอุจจาระหรื อผายลมได้ อ่อนเพลีย เหงื่อออก ตัวเย็น หรือมีไข้ ในบางรายอาจมีภาวะช็อกจากลำไส้ ขาดเลือด ซึ่งอันตรายถึงชีวิต
เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าเป็ นภาวะลำไส้บิดขั้ว ผู้ป่วยมักต้องได้รับการรั กษาอย่างเร่งด่วน โดยอาจต้องทำการผ่าตัดฉุกเฉิ นเพื่อคลี่คลายการบิดของลำไส้ และฟื้นฟูการไหลเวียนของเลื อดให้กลับมาปกติ หากลำไส้บางส่วนเกิดภาวะขาดเลื อดจนเสียหายแล้ว อาจต้องตัดส่วนที่ตายออกเพื่อป้ องกันการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้ อน
อาการปวดท้องเฉียบพลันเป็นสิ่ งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเบื้องหลังอาจเป็นภาวะอั นตรายที่ต้องได้รับการรั กษาโดยเร็ว การสังเกตอาการและรีบไปพบแพทย์ คือสิ่งสำคัญที่จะช่วย “รักษาชีวิต” ของคุณได้



