หลายท่านอาจไม่ทราบว่าลู กของตนเองมองเห็นดีหรือไม่ การที่เด็กยังเล่นได้หรือไม่ได้ บ่นว่าตามัว ก็ไม่ได้หมายความว่าจะ “มองเห็นดี” การมองเห็นที่ไม่ดีในเด็กนั้นมี หลายสาเหตุ แต่บางสาเหตุหากไม่ได้รับการรั กษาตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจทำให้การมองเห็นนั้นไม่ดี ไปตลอดชีวิตได้เลย ซึ่งหนึ่งในสาเหตุนั้นคือ “ตาขี้เกียจ”
นายแพทย์พงษ์สันต์ สุปรียธิติกุล จักษุแพทย์ชำนาญการด้านโรคตาเด็ กและโรคตาเข โรงพยาบาลเวชธานีอินเตอร์เนชั่ นแนล อธิบายว่า ภาวะ ตาขี้เกียจ (Amblyopia) เป็นภาวะที่เกิ ดจากความผิดปกติทางตา ที่ทำให้สมองส่วนการมองเห็นไม่ สามารถพัฒนาไปได้อย่างเต็มที่ หรือหยุดพัฒนาไป ทำให้ตาข้างนั้น ๆ อาจมองไม่ชัดไปตลอดได้หากไม่ได้ รับการแก้ไขในช่วงที่สมองยังพั ฒนาได้อยู่ สาเหตุของตาขี้เกียจ
- มีปัญหาค่าสายตาที่ผิดปกติ (Refractive amblyopia) ไม่ว่าจะสั้น ยาว หรือเอียง หากมีค่าที่มากเกินไป หรือค่าทั้งสองข้างต่างกันมาก ก็ทำให้เกิดตาขี้เกียจได้
- ตาเขหรือตาเหล่ (Strabismic amblyopia) สมองจะเลือกใช้ตาข้างที่
ตรงในการมอง ทำให้เกิดตาขี้เกียจในตาข้างที่ เข - โรคทางตาที่บดบังการมองเห็น (Visual deprivation amblyopia) เช่น ต้อกระจกในเด็ก กระจกตาขุ่น เปลือกตาตก เป็นต้น
อาการบางอย่างที่อาจทำให้สงสั
ในช่วงวัยเรียน เด็กต้องใช้สายตาเกือบตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน เขียน หรือมองจอ/กระดาน หากตาข้างนึงมองไม่ชัด จะทำให้เกิดปัญหาด้านการเรียน จนอาจถูกเข้าใจผิดว่าไม่ตั้ งใจเรียนหรือมีปัญหาด้านอื่น ๆ ได้ ทั้งที่แท้จริงแล้วเกิดมาจากปั ญหาการมองเห็น ในประเทศอเมริกาแนะนำว่าเด็ กควรได้รับการตรวจตาเพื่อคั ดกรองอย่างน้อย 1 ครั้ง ก่อนอายุ 3 – 5 ขวบ และควรตรวจไปปีละครั้งจนพั ฒนาการมองเห็นสมบูรณ์ดีแล้ว โดยการตรวจขึ้นอยู่กับอายุเด็ก แพทย์จะทำการตรวจตา การทำงานของกล้ามเนื้อตา ประเมินการมองเห็น วัดค่าสายตา เป็นต้น
สำหรับแนวทางการรักษาภาวะตาขี้ เกียจ แบ่งออกเป็น
- แก้ไขสาเหตุที่ทำให้เกิดตาขี้
เกียจ เช่น การใส่แว่นตาในรายที่มีค่ าสายตาที่ผิดปกติหรือตาเขบางชนิ ด การผ่าตัดรักษาในรายที่มีตาเข ต้อกระจก เปลือกตาตก เป็นต้น - การกระตุ้นให้ข้างที่สงสั
ยภาวะตาขี้เกียจให้ได้ใช้ งานมากขึ้น เช่น
- การลดการใช้งานตาข้างที่ดี เช่น การปิดตาข้างที่ดี (Patching) การหยอดยาหรือใช้เลนส์ในตาข้
างที่ดีให้มัวลงชั่วคราว แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ในการควบคุ มโดยแพทย์ เพื่อไม่ให้เกิดตาขี้เกี ยจในตาข้างที่ดีจากการรักษาได้ (Reverse amblyopia) - การกระตุ้นให้ตาขี้เกียจได้ใช้
งาน เช่น การเล่น VDO เกมส์ หรือมีกิจกรรมในมองมองใกล้ 20 – 30 นาทีต่อวัน
ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่จะทำให้การรักษาได้ ผลดีที่สุด คือก่อนอายุ 7–8 ปี เพราะสมองของเด็กยังพัฒนาได้เต็ มที่ หากปล่อยเลยวัยนี้แล้วจะทำให้ ผลลัพธ์ของการรักษาลดลง

“เด็กที่มีตาขี้เกียจหลายคนดู เหมือนจะมองเห็นดี เพราะใช้ตาอีกข้างที่ยังปกติช่ วย ดูไม่ได้เป็นปัญหาที่น่ากังวล แต่เมื่อโตขึ้นจะพบว่ากิจกรรมที่ ต้องใช้การมองเห็นที่ละเอียดด้ วยตาสองข้าง เช่น การกะระยะ การมองภาพสามมิติ อาจส่งผลกับการทำงานบางสาขาได้ การรักษาในวัยผู้ใหญ่จะได้ผลน้ อยกว่าการรักษาในตอนเด็กค่อนข้ างมาก ดังนั้น ตาขี้เกียจอาจเป็นคำเรียกที่ฟั งดูไม่ร้ายแรง แต่ผลที่ตามมาอาจส่งผลไปตลอดชี วิตได้ การสังเกตและตรวจคัดกรองตั้งแต่ เนิ่น ๆ คือกุญแจสำคัญของการรักษา เพราะดวงตาของเด็กยังมีพลั งในการฟื้นตัวและพัฒนาต่อได้” นา ยแพทย์พงษ์สันต์ กล่าว